
การสังเกต ภาษากายของนักพนัน สัญญาณเตือนการติดพนัน
- Ye Jin
- 120 views

การสังเกต ภาษากายของนักพนัน ช่วยให้เข้าใจอารมณ์ และจิตใจของผู้เล่น เช่น ความตื่นเต้น ความเครียด หรือความโลภที่สะท้อนออกมาผ่านพฤติกรรม การสังเกตนี้ ช่วยระบุสัญญาณเสพติด และความเสี่ยง พร้อมเห็นความแตกต่างระหว่างนักพนัน กับนักเดิมพันทั่วไป
- คำนิยามของนักพนัน
- พฤติกรรมของนักพนันที่เข้าข่ายเสพติด
- จิตวิทยาการพนันที่ส่งผลต่อภาษากายของนักพนัน
อธิบายคำนิยามของนักพนัน
นักพนันคือคนที่ไม่ได้แค่เล่นเดิมพันเพื่อความสนุกหรือหวังผลกำไรเท่านั้น แต่เป็นผู้ที่เข้าไปอยู่ในโลกของความตื่นเต้น ความหวัง ความกลัว และการต่อสู้กับตัวเองอย่างลึกซึ้ง แม้จะรู้ดีว่าการพนันเต็มไปด้วยความเสี่ยง และอาจสูญเสียมากกว่าที่ได้
แต่เสน่ห์ของการเดิมพันกลับดึงดูดให้ยากจะถอนตัว เพราะมันให้ทั้งความสุข ความระทึก และความหวังในเวลาเดียวกัน นักพนันจึงไม่ได้ต่อสู้แค่บนโต๊ะพนัน แต่กำลังต่อสู้กับอารมณ์ ความโลภ และความหวังภายในใจ ซึ่งแม้จะรู้ว่าต้องควบคุมสติ
หลายคนก็ยังพ่ายแพ้ให้กับความรู้สึกเหล่านั้น จนเส้นแบ่งระหว่าง “นักพนัน” กับ “ผีพนัน” บางลงอย่างน่ากลัว สุดท้าย นักพนันจึงไม่ใช่แค่ผู้เล่นเกมเดิมพัน แต่คือภาพสะท้อนของมนุษย์ที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง ความเจ็บปวด ความสุข และความหวังในเวลาเดียวกัน
ที่มา: นักพนัน (2012) [1]
พฤติกรรมของนักพนัน ที่เข้าข่ายเสพติดการพนัน
พฤติกรรมของนักพนันที่เข้าข่ายเสพติดมักเริ่มจากไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ทั้งเรื่องเวลาและเงิน แม้ตั้งใจจะหยุดก็หยุดไม่ได้ อีกทั้งยังมีพฤติกรรม “แก้มือ” หรือไล่ตามเงินที่เสียไป นักพนันที่เสพติดมักเล่นต่อแม้รู้ว่ากำลังส่งผลเสียต่อชีวิต ใช้การพนันหลีกหนีความเครียด และเมื่อไม่ได้เล่นจะรู้สึกหงุดหงิด กระวนกระวาย หรืออยากกลับไปเล่นอีกทันที
งานวิจัยทั่วโลกชี้ว่าโดยเฉลี่ยประมาณ 1.29% ของผู้ใหญ่มีปัญหาการพนันแบบรุนแรง และอีก 2.43% อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ขณะที่งานสำรวจหลายประเทศพบว่า 0.1%–5.8% ของประชากรอาจมีพฤติกรรมการพนันที่เข้าข่ายปัญหา
แม้สถิติไม่ผูกโยงโดยตรงกับภาษากาย แต่การมีพฤติกรรมซ้ำๆ เช่น เล่นต่อแม้เสีย ไล่เงินคืน หรือกระวนกระวายเมื่อไม่ได้เล่น ถือเป็นสัญญาณสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะสะท้อนว่าผู้เล่นอาจตกอยู่ในภาวะเสพติดจริงๆ
ที่มา: Thinking You’re a Professional Gambler? (22 กรกฎาคม 2022) [2]
เปิดประวัติการพนันในไทยที่มีมาตั้งแต่โบราณ
การพนันในไทยมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ เริ่มจากอิทธิพลจีนและอินเดีย มีหลักฐานตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย (พ.ศ. 2231–2275) กับการเล่น “กำตัด” ต่อมามีการพนันท้องถิ่น เช่น แข่งกัดจิ้งหรีด ชนไก่ วิ่งวัว-ควาย แข่งเรือ และเมื่อชาวต่างชาติเข้ามามากขึ้น
หวยและลอตเตอรี่ก็แพร่หลาย ในรัชกาลพระเจ้าบรมโกศ (พ.ศ. 2329–2333) การพนันได้รับความนิยมสูง มีการเปิดบ่อนและเก็บอากร ต่อมาสมัยรัชกาลที่ 5 (พ.ศ. 2411–2453) ทรงจำกัดบ่อนทั่วประเทศ
และสมัยรัชกาลที่ 6 วันที่ 1 เม.ย. พ.ศ. 2460 ประกาศปิดบ่อนทั่วราชอาณาจักร ทำให้การพนันผิดกฎหมาย แต่ประชาชนยังลักลอบเล่นอยู่มาก ปัจจุบันมีข้อเสนอให้เปิดบ่อนกาสิโนถูกกฎหมายเพื่อควบคุมและเก็บภาษี แต่ยังเป็นประเด็นถกเถียง ทำให้ประวัติการพนันในไทยมีมาตั้งแต่กว่า 700 ปีจนถึงปัจจุบัน
ที่มา: ย้อนรอยเรื่องราว ‘การพนัน’ ในสังคมไทย (25 มกราคม 2021) [3]
จิตวิทยาในการพนันที่ส่งผลต่อภาษากายของนักพนัน

การเล่นพนันไม่ได้มีแค่เรื่องเงินหรือโชคชะตาเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับจิตใจและอารมณ์ของผู้เล่นอย่างลึกซึ้ง ซึ่งมักสะท้อนออกมาผ่านภาษากาย เช่น มือสั่น เหงื่อออก ใบหน้าเกร็ง หรือกะพริบตาบ่อยเมื่อกำลังลุ้นผล หรือพยายามเอาคืนหลังเสียเงิน
นักพนันที่มั่นใจอาจเอนหลัง ผ่อนคลาย ยิ้ม หรือสบตาคู่แข่ง แต่พฤติกรรมเหล่านี้เปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์ของเกม สำหรับคนที่เริ่มเสพติด มักมีภาษากายซ้ำๆ เช่น ก้าวเดินไปมา ตบโต๊ะ หรือกระตุกนิ้วมือ ซึ่งสะท้อนว่าจิตใจถูกความโลภหรือความตื่นเต้นครอบงำ
การสังเกตภาษากายจึงช่วยให้เข้าใจอารมณ์และความคิดของนักพนัน แม้พวกเขาจะไม่พูดออกมา และยังช่วยให้ผู้เล่นหรือคนรอบข้างตระหนักถึงพฤติกรรมและควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น
เหตุผลที่นักพนันมีพฤติกรรมที่แตกต่างจากคนทั่วไป
จากการ จับตาดู พฤติกรรมนักพนัน มักมีพฤติกรรมที่แตกต่างจากคนทั่วไป เพราะการเล่นพนันเกี่ยวข้องกับอารมณ์ ความตื่นเต้น และความเสี่ยง ทำให้การตัดสินใจไม่เป็นไปตามเหตุผลล้วนๆ เหตุผลหลักที่ทำให้พฤติกรรมของนักพนันต่างออกไป มีดังนี้
- การมองความเสี่ยงผิดปกติ นักพนันมักประเมินโอกาสชนะสูงเกินจริงหรือเชื่อว่าตนสามารถเอาชนะโชคชะตาได้
- ความต้องการเอาชนะความสูญเสีย การไล่ตามเงินที่เสียไปทำให้พฤติกรรมกลายเป็นหุนหันพลันแล่นและเสี่ยงมากขึ้น
- การเสพติดความตื่นเต้นและโดพามีน สมองได้รับรางวัลทางเคมีเมื่อเล่นพนัน แม้จะเสียเงินก็ยังอยากเล่นต่อ
- การใช้การพนันเป็นทางออกทางอารมณ์ บางคนใช้เกมเป็นวิธีหลบเลี่ยงความเครียด ความเหงา หรือปัญหาในชีวิตประจำวัน
เปรียบเทียบ พฤติกรรมนักพนัน vs นักเดิมพันทั่วไป
การเล่นพนันหรือเดิมพันเป็นกิจกรรมที่หลายคนทำเพื่อความสนุก แต่พฤติกรรมของนักพนันกับนักเดิมพันทั่วไปมักแตกต่างกันอย่างชัดเจน ทั้งในเรื่องการควบคุมอารมณ์ การประเมินความเสี่ยง และผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน
พฤติกรรมนักพนัน
- มักเล่นต่อแม้รู้ว่ากำลังเสียเงินหรือส่งผลเสียต่อชีวิต
- ประเมินโอกาสชนะสูงเกินจริง และมักไล่ตามเงินที่เสียไป
- เล่นเพื่อหลบหนีความเครียดหรือเสพความตื่นเต้นอย่างต่อเนื่อง
- การเล่นมักส่งผลกระทบต่อการเงิน ความสัมพันธ์ และชีวิตประจำวัน
- ภาษากายสะท้อนความตึงเครียด เช่น มือสั่น กระตุกนิ้ว หรือก้าวเดินไปมา
พฤติกรรมนักเดิมพันทั่วไป
- ตั้งขอบเขตเรื่องเงินและเวลาได้ รู้จักหยุดเมื่อถึงขีดจำกัด
- ประเมินความเสี่ยงอย่างมีเหตุผล และรับได้หากเสียเงินเล็กน้อย
- เล่นเพื่อความสนุกหรือความตื่นเต้นชั่วคราว ไม่ใช้เกมเป็นทางออกทางอารมณ์
- การเล่นไม่กระทบงาน ครอบครัว หรือความสัมพันธ์
- ภาษากายผ่อนคลาย มีความมั่นใจ และควบคุมอารมณ์ได้
บทสรุป การสังเกต ภาษากายของนักพนัน
การสังเกต ภาษากายของนักพนัน ช่วยให้เข้าใจอารมณ์ ความคิด และสัญญาณเสี่ยง เช่น ความตื่นเต้น ความเครียด หรือความโลภ พฤติกรรมเหล่านี้ ยังช่วยแยกนักพนันจากนักเดิมพันทั่วไป และเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยในการควบคุมอารมณ์ หรือรับมือกับผู้เล่นได้
ภาษากายของนักพนันแบบไหน ที่บ่งบอกว่าติดพนัน ?
นักพนันที่เริ่มติดมักมีภาษากายบ่งบอกชัดเจน เช่น กระวนกระวาย ก้าวเดินไปมา ตบโต๊ะ หรือกระตุกนิ้วมือบ่อยๆ มือสั่น เหงื่อออก และใบหน้าเกร็งเวลาลุ้นผล พฤติกรรมซ้ำๆ เหล่านี้สะท้อนว่าจิตใจถูกความตื่นเต้น ความโลภ หรือความเครียดครอบงำจนควบคุมตัวเองไม่ได้
การสังเกตภาษากายของนักพนัน สำคัญอย่างไร ?
การสังเกตภาษากายของนักพนัน ช่วยให้เห็นอารมณ์ และความคิดที่แท้จริง เช่น ความตื่นเต้น ความเครียด หรือความโลภ แม้พวกเขาจะไม่พูดออกมา การสังเกตพฤติกรรมเหล่านี้ ช่วยให้ผู้เล่นหรือคนรอบข้างตระหนักถึงความเสี่ยง และปรับวิธีรับมือ หรือควบคุมอารมณ์ได้ทันเวลา


