
ความเชื่อ ดวงกับการเดิมพัน เข้าใจจิตวิทยา เพื่อเล่นอย่างมีสติ
- Ye Jin
- 72 views

ความเชื่อ ดวงกับการเดิมพัน เป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทย ที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการเล่นพนัน ทั้งแบบดั้งเดิม และออนไลน์ ความเชื่อเรื่องโชคผสมกับจิตวิทยา ส่งผลต่อการตัดสินใจ และการรับรู้ความเสี่ยง การเข้าใจเรื่องเหล่านี้ ช่วยให้มองการพนันอย่างมีสติ และลดความเสี่ยงได้มากขึ้น
- ข้อมูลที่ควรรู้เกี่ยวกับการพนัน
- จิตวิทยาความเชื่อเรื่องดวงในการพนัน
- ความต่างของการเล่นพนันที่เชื่อเรื่องดวง และไม่เชื่อเรื่องดวง
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการพนัน และรูปแบบการพนัน
การพนันคือกิจกรรมที่ผู้เล่นเสี่ยงโชค เพื่อหวังผลกำไรหรือทรัพย์สิน โดยอาศัยการคาดเดา และโอกาสมากกว่าทักษะ หลายคนเริ่มเล่นเพราะความสนุก หรือตื่นเต้น แต่หากขาดการควบคุมอาจกลายเป็นการเสพติดที่ส่งผลเสียต่อชีวิต การเงิน และครอบครัว
ปัจจุบันการพนันออนไลน์ เป็นอีกหนึ่งรูปแบบ ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะเข้าถึงง่ายผ่านอินเทอร์เน็ตและไม่ต้องเปิดเผยตัวตน เช่น คาสิโนออนไลน์ แทงบอล หรือหวยออนไลน์ แต่ถึงแม้ว่าจะดูสะดวก และให้ความบันเทิง แต่ก็แฝงด้วยความเสี่ยงทางกฎหมาย และผลกระทบทางจิตใจที่ควรระวัง
ที่มา: การพนันคืออะไร? มีโทษอย่างไร? (30 มิถุนายน 2023) [1]
เปิดประวัติความเป็นมาของการพนันจากอดีตสู่ปัจจุบัน
การพนันเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทยมายาวนาน ตั้งแต่สมัยโบราณที่ผู้คนเล่นพนันหลากหลายรูปแบบ เช่น ชนไก่ ชนวัว หรือแข่งเรือ ซึ่งกลายเป็นกิจกรรมทางวัฒนธรรม ต่อมาในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 การพนันเริ่มแพร่หลายมากขึ้นจากอิทธิพลของชาวต่างชาติ มีการนำเกมใหม่ๆ เข้ามา
รวมถึง “หวย” จากจีนที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว รัฐบาลไทยในอดีตเคยอนุญาตให้เปิดบ่อนอย่างถูกกฎหมาย เพื่อใช้เป็นแหล่งรายได้ของรัฐ แต่ภายหลังต้องยกเลิก เพราะปัญหาอาชญากรรม และการล้มละลายที่ตามมา จนถึงรัชกาลที่ 6 มีการสั่งปิดบ่อนทั่วประเทศในปี พ.ศ. 2460
ต่อมามีการออกพระราชบัญญัติการพนัน ในปี พ.ศ. 2473 และแก้ไขในปี พ.ศ. 2478 เพื่อควบคุมการพนันให้เป็นระบบมากขึ้น แม้เคยมีความพยายามเปิดคาสิโนอย่างถูกกฎหมายอีกครั้ง แต่สุดท้ายก็ถูกยกเลิกเนื่องจากเสียงคัดค้านจากสังคม และสื่อมวลชน
ที่มา: การพนันในประเทศไทย (9 เมษายน 2025) [2]
ความเชื่อเกี่ยวกับการพนัน และดวงโชคลาภ
หลายคนมองว่าการพนันไม่ใช่แค่เรื่องของเงิน หรือความกล้าเสี่ยง แต่ยังเกี่ยวข้องกับความเชื่อ และดวงที่ฝังรากลึกในสังคมไทย ความเชื่อเหล่านี้ มักทำให้คนรู้สึกว่าตัวเองมีโอกาสชนะมากขึ้น เช่น การบูชาพระ เครื่องราง ของขลัง ขอเลขจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ หรือเลือกวันเวลาเล่นตามดวง
แต่สิ่งเหล่านี้ อาจทำให้หลงยึดติดกับโชค มากกว่าการใช้เหตุผล ในความจริง การพนันส่วนใหญ่ถูกออกแบบให้เจ้ามือได้เปรียบ ดวงอาจมีผลบ้างในบางครั้ง แต่สิ่งที่สำคัญคือการรู้เท่าทัน เข้าใจระบบเกม และควบคุมพฤติกรรมตัวเอง เพราะสติเท่านั้นที่จะช่วยให้ไม่แพ้ตลอดไป
จิตวิทยาของความเชื่อเรื่องดวง ในการพนัน

การเล่นพนันไม่ได้ขึ้นอยู่กับโชค หรือดวงเพียงอย่างเดียว เพราะคาสิโนใช้จิตวิทยากระตุ้นให้ผู้เล่นอยู่ต่อและเล่นนานขึ้น แสง สี เสียง กลิ่น และการจัดวางพื้นที่แบบหลงทาง ถูกออกแบบมาให้สมองรู้สึกตื่นตัว สนุก และอยากเล่นต่อ การขาดหน้าต่างและนาฬิกาทำให้ผู้เล่นไม่รู้เวลาผ่านไป
สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้เล่นพึ่งพาความรู้สึก และ “ดวง” มากกว่าการคิดอย่างมีเหตุผล สมองจะหลั่งโดพามีน และอะดรีนาลีนเมื่อเสี่ยงโชค ทำให้เกิดความตื่นเต้น และความสุขชั่วคราว แต่ความพึงพอใจนี้อาจนำไปสู่การติดการพนัน โดยเฉพาะกับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิต หรือบุคลิกบางประเภท
เมื่อเกิดการสูญเสียเงิน ก็ยิ่งกระตุ้นให้เล่นต่อเพื่อเอาคืน กลไกเหล่านี้ทำให้ผู้เล่นเชื่อในโชค และดวงของตัวเองมากขึ้น การเข้าใจจิตวิทยาเหล่านี้ จึงช่วยให้มองการพนันอย่างมีสติ และไม่ตกอยู่ภายใต้ความเชื่อเรื่องดวงเพียงอย่างเดียว
ที่มา: The Psychology-Gambling Connection (27 กันยายน 2023) [3]
การพนัน และดวง มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไรในแง่จิตวิทยา
หลายคนเชื่อว่าการพนันเกี่ยวข้องกับดวง หรือโชคชะตา แต่ในแง่จิตวิทยา สิ่งที่เรียกว่า “ดวง” มักเกี่ยวข้องกับวิธีสมองรับรู้ความเสี่ยง และความพึงพอใจจากการเล่น การพนันทำให้สมองหลั่งสารโดพามีน และอะดรีนาลีน ซึ่งทำให้เกิดความตื่นเต้น และความสุขชั่วคราว
เมื่อชนะ ผู้เล่นจะรู้สึกว่าตัวเองดวงดี ทำให้เกิดความเชื่อว่าดวงกำลังขึ้น และอาจกระตุ้นให้เสี่ยงมากขึ้น ขณะเดียวกัน เมื่อเสียเงิน ผู้เล่นก็อาจเชื่อว่าต้องเล่นต่อเพื่อ “เอาคืนดวง” ซึ่งสอดคล้องกับ จิตวิทยา การไล่ตามทุน ซึ่งทำให้คนยึดติดกับโชค และดวงมากกว่าการใช้เหตุผล
นอกจากนี้ การออกแบบคาสิโน หรือเกมพนันออนไลน์ ยังส่งผลให้ผู้เล่นเสียการรับรู้เวลา และสภาพแวดล้อม ทำให้ความเชื่อเรื่องดวง ยิ่งมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจ การเข้าใจจิตวิทยาเหล่านี้ช่วยให้ผู้เล่นสามารถแยกแยะ ระหว่างโชคกับพฤติกรรมเสี่ยง และมองการพนันอย่างมีสติมากขึ้น
เปรียบเทียบ การเล่นพนันโดยอาศัยดวง vs ไม่อาศัยดวง
หลายคนมักสงสัยว่าการเล่นพนัน แบบเชื่อดวง แตกต่างจากการเล่นแบบวางแผนอย่างไร และแบบไหน มีความเสี่ยง หรือได้เปรียบมากกว่ากัน ในความเป็นจริง การพนันสามารถมองได้เป็นสองแนวทางใหญ่ ซึ่งมีผลต่อโอกาสชนะ และความเสี่ยงทางการเงิน
การเล่นพนันโดยอาศัยดวง
- การเล่นแบบนี้เน้นโชค หรือความเชื่อส่วนตัว เช่น เลือกเลขจากความฝัน เชื่อว่าช่วงนี้ดวงขึ้น หรืออิงจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์
- ข้อมูลจากการสำรวจพบว่าประมาณ 60–70% ของผู้เล่นไทย มักใช้ความเชื่อเรื่องดวงเป็นตัวช่วยตัดสินใจ
- การเล่นแบบนี้มักไม่ได้คำนวณโอกาสชนะ หรือวิเคราะห์ความเสี่ยง ทำให้บางครั้งชนะ เพราะโชค แต่เมื่อเสียก็อาจเล่นต่อเพื่อลุ้นเอาคืน ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินในจำนวนที่มากขึ้นได้
การเล่นพนันโดยไม่อาศัยดวง
- การเล่นแบบนี้ใช้การวางแผน และการบริหารจัดการเงินทุน เช่น ตั้งขีดจำกัดการเดิมพัน ศึกษากฎและโอกาสชนะ หรือใช้กลยุทธ์ทางคณิตศาสตร์
- งานวิจัยพบว่าผู้เล่นที่วางแผนมักสามารถลดการสูญเสียเงินได้ถึง 30–50% เมื่อเทียบกับผู้เล่นที่อิงดวงเพียงอย่างเดียว
- นอกจากนี้ยังช่วยให้ควบคุมอารมณ์ ลดความเสี่ยงจากการติดการพนัน และมองการเล่นเป็นเรื่องของการบริหารความเสี่ยงมากกว่าการหวังโชค
บทส่งท้าย ความเชื่อ ดวงกับการเดิมพัน
ความเชื่อ ดวงกับการเดิมพัน มีอิทธิพลต่อวิธีที่ผู้เล่นตัดสินใจ และรับรู้ความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการพนันแบบดั้งเดิมหรือออนไลน์ แม้ดวงอาจช่วยสร้างความตื่นเต้น และความมั่นใจ แต่ผลลัพธ์ส่วนใหญ่ขึ้นกับโอกาสและการบริหารจัดการ การเข้าใจจิตวิทยา และความเสี่ยงจึงช่วยให้เล่นอย่างมีสติ และลดความเสียหายทางการเงินได้
ทำไมเล่นการพนันต้องอาศัยดวง ?
หลายคนเชื่อว่าการพนันต้องอาศัยดวง เพราะผลลัพธ์ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับความไม่แน่นอน และโอกาส ผู้เล่นจึงมักใช้ความเชื่อ หรือโชคส่วนตัว เป็นตัวช่วยตัดสินใจ แม้บางครั้งการชนะจะเป็นเรื่องของโชค แต่การพึ่งดวงมากเกินไป ก็เสี่ยงทำให้เสียเงินโดยไม่รู้ตัว และขาดการวางแผนอย่างมีสติ
ดวงและการพนัน เกี่ยวข้องกันได้อย่างไร ?
ดวงและการพนันเกี่ยวข้องกัน เพราะผู้เล่นมักมองผลลัพธ์ผ่านความเชื่อเรื่องโชค หรือเวลาที่เหมาะสม สมองจะหลั่งสารสร้างความสุขเมื่อชนะ ทำให้รู้สึกว่าดวงกำลังดี แต่ในความจริงผลของการพนันส่วนใหญ่ขึ้นกับโอกาส และความเสี่ยง การพึ่งดวงมากเกินไป จึงอาจทำให้เสียเงินในจำนวนมากได้


