จิตวิทยา เลิกเป็นนักพนัน แนวทางปรับพฤติกรรมสู่ชีวิตที่มีสติ

จิตวิทยา เลิกเป็นนักพนัน

จิตวิทยา เลิกเป็นนักพนัน ช่วยให้เข้าใจว่าการพนันไม่ใช่แค่เรื่องของเกมและเงิน แต่เกี่ยวข้องกับจิตใจ พฤติกรรม และอารมณ์ที่ซับซ้อน การรู้จักกลไกทางจิตวิทยา แรงดึงดูด และสัญญาณเตือนของนักพนัน จะช่วยให้มองเห็นความเสี่ยงและแนวทางเลิกพนันได้อย่างเป็นระบบและปลอดภัย

  • ความหมายและคำนิยามของนักพนัน
  • แรงดึงดูดของการพนันที่ทำให้กลายเป็นนักพนัน
  • จิตวิทยาที่สอดคล้องกับการพนัน

ความหมาย และคำนิยามของนักพนัน

นักพนัน คือผู้ที่ไม่ได้เผชิญแค่เกมเสี่ยงโชคตรงหน้า แต่กำลังต่อสู้กับสนามรบภายในใจตัวเอง แม้จะรู้ถึงความเสี่ยงและอันตรายของการพนัน แต่แรงดึงดูดจากความหวังที่จะชนะ ความตื่นเต้น เงิน ชื่อเสียง หรือแม้แต่ความรัก ทำให้ยากจะถอนตัว

นักพนันบางคนรู้ดีว่าการควบคุมสติคือกุญแจสำคัญ แต่กลับเอาชนะหัวใจตัวเองไม่ได้ เพราะศัตรูที่แท้จริงไม่ใช่เกม หากคืออารมณ์ ความโลภ และความหวังที่ซ่อนอยู่ลึกภายใน

การพนันจึงกลายเป็นทั้งสิ่งที่น่าหลงใหลและน่าชิงชังในเวลาเดียวกัน เป็นความสุขอันร้อนแรงที่รู้ว่าอันตรายแต่ก็ยากจะหันหลังให้ได้ และนี่คือความหมายของนักพนันอย่างแท้จริง

ที่มา: นักพนัน (2012) [1]

ศึกษาพฤติกรรมของนักพนัน

การศึกษา และ จับตาดู พฤติกรรมนักพนัน พบว่า เมื่อเริ่มมีปัญหา พวกเขามักซ่อนพฤติกรรมการเล่น ปกปิดเรื่องเวลาและเงินที่ใช้ไป เพราะกลัวคนอื่นไม่เข้าใจ หรือหวังจะสร้างภาพจากการชนะครั้งใหญ่ ทั้งที่ภายนอกอาจไม่เห็นอาการเหมือนการเสพติดอื่น แต่ภายในเต็มไปด้วยแรงดึงดูดและการควบคุมตนเองที่เริ่มสั่นคลอน

อีกทั้งยังควบคุมตัวเองไม่ได้ เมื่อเริ่มเล่นแล้วมักหยุดไม่อยู่ เพิ่มเงินเดิมพันเพื่อหวังเอาทุนคืน แม้จะเสียก็ยังฝืนเล่นต่อ นอกจากนี้ยังเล่นทั้งที่ไม่มีเงิน โดยนำเงินที่ต้องใช้ในชีวิต เช่น ค่าใช้จ่ายหรือเงินของครอบครัวมาเล่น และบางครั้งถึงขั้นหยิบยืม ขายของ หรือทำผิดเพื่อหาเงินมาเดิมพัน

สิ่งที่น่ากังวลคือคนรอบตัวมักเริ่มเตือนหรือแสดงความห่วงใย แต่เจ้าตัวกลับไม่ยอมรับหรือปฏิเสธปัญหา พฤติกรรมเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่านักพนันไม่ได้ต่อสู้แค่กับเกมที่เล่น แต่กำลังต่อสู้กับการควบคุมตัวเองและผลกระทบที่เกิดขึ้นกับชีวิตและคนรอบข้าง

ที่มา: Gambling Addiction (2 พฤศจิกายน 2018) [2]

แรงดึงดูดของการพนัน ที่ทำให้นักเดิมพันกลายเป็นนักพนัน

  • ความตื่นเต้นจากการลุ้น การเล่นพนันทำให้หัวใจเต้นแรง รู้สึกตื่นเต้น สนุก กับความไม่แน่นอน คนเลยอยากเล่นซ้ำเพื่อให้ได้ความรู้สึกแบบนั้นอีก
  • ความสุขจากการชนะ ไม่ว่าจะชนะมากหรือน้อย สมองจะหลั่งสารความสุข ทำให้คนติดความรู้สึกดีๆ มากกว่าติดเงิน
  • หวังว่าจะชนะอีกครั้ง แม้จะแพ้หลายครั้ง คนก็ยังอยากเล่นต่อเพราะคิดว่า “สักตาต้องชนะ” ความหวังนี้ทำให้หยุดยาก
  • อยากเอาคืนเมื่อเสีย พอเสียเงิน คนมักอยากเอาทุนคืน จึงเล่นต่อ เพิ่มเดิมพัน และเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้
  • คิดว่าควบคุมได้ ตอนแรกหลายคนมั่นใจว่าตัวเองเล่นเพื่อสนุกและหยุดได้ทุกเมื่อ แต่พอเล่นบ่อยขึ้น ใช้เงินและเวลาเยอะขึ้น ก็เริ่มควบคุมไม่ได้จริงๆ
  • กลายเป็นนิสัย เล่นบ่อยจนกลายเป็นกิจวัตร เล่นเพื่อคลายเครียด แก้เบื่อ หรือหนีปัญหา จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
  • เล่นด้วยอารมณ์มากกว่าเพื่อสนุก ตอนแรกเล่นเพื่อความบันเทิง แต่พออารมณ์เข้ามาเกี่ยว ทั้งความโลภ ความเสียดาย หรือความไม่ยอมแพ้ การพนันก็กลายเป็นเรื่องต้องเล่นต่อไปเรื่อยๆ

จิตวิทยาที่สอดคล้องกับการพนันสู่การเสพติด

จิตวิทยา เลิกเป็นนักพนัน

การพนันสามารถพัฒนาไปสู่การเสพติดได้ เพราะเกี่ยวข้องกับกลไกทางจิตวิทยาหลายอย่าง ทำให้คนสูญเสียการควบคุมตัวเอง แม้จะเกิดผลเสียต่อเงิน ความสัมพันธ์ และสุขภาพจิตก็ตาม โดยภาวะติดการพนันส่งผลกระทบต่อประมาณ 0.2–5.3% ของประชากรโลก 

โดยเฉลี่ยผู้ที่มีปัญหาแต่ไม่ได้รับการรักษาจะมีอาการนี้ต่อเนื่องประมาณ 8.9 ปี ก่อนเข้ารับความช่วยเหลือ การเสพติดการพนันไม่เพียงกระทบตัวบุคคล แต่ยังส่งผลต่อครอบครัว ชุมชน และระบบสาธารณสุข และในกรณีรุนแรงอาจนำไปสู่ซึมเศร้า การใช้สารเสพติด หรือความคิดฆ่าตัวตาย โดยมีปัจจัยทางจิตวิทยา เช่น

  • มีความคิดที่บิดเบือน นักพนันมักคิดว่าตัวเองสามารถควบคุมผลลัพธ์ของเกม หรือเชื่อว่าโชคร้ายที่ผ่านมา จะต้องชนะในครั้งต่อไป ทำให้เล่นต่อแม้เสียเงินซ้ำๆ
  • ประสบการณ์ใกล้ชนะ การเกือบชนะทำให้สมองปล่อยสารความสุข คล้ายกับชนะจริง จึงอยากเล่นต่อ
  • การจัดการอารมณ์ การพนันให้ความตื่นเต้นและหลีกหนีความเครียดหรือความเศร้า ทำให้คนพึ่งพาการพนันเพื่อบรรเทาอารมณ์
  • ความไวต่อรางวัล สมองตอบสนองต่อความสุขจากการชนะหรือความคาดหวังสูง ทำให้เกิดความอยากเล่นซ้ำ
  • หนีปัญหา การพนันช่วยหนีความเบื่อหรือปัญหาในชีวิตชั่วคราว ทำให้พฤติกรรมนี้ซ้ำและติด

ที่มา: The Psychological Mechanisms Behind Gambling Addiction (4 ตุลาคม 2024) [3]

การเลิกเป็นนักพนัน ทำได้อย่างไร

งานวิจัยและรายงานสากลชี้ว่าการพนันแพร่หลายและอาจกลายเป็นปัญหาได้ โดย World Health Organization ประเมินว่า ณ ปี 2024 ประมาณ 1.2% ของผู้ใหญ่ทั่วโลกมีภาวะ gambling disorder งานเมต้าวิเคราะห์ช่วง 2016–2022 พบว่า ~1.29% ของผู้ใหญ่มีปัญหาการพนัน และการสำรวจหลายประเทศระหว่าง 2000–2015 ระบุว่าอัตรา problem gambling อยู่ระหว่าง 0.1–5.8% ต่อปี

ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนว่าการพนันอาจเริ่มจากความสนุก แต่สำหรับบางคนสามารถลื่นไหลสู่ภาวะเสพติด ที่กระทบทั้งการเงิน ครอบครัว และสุขภาพจิต ทำให้การเลิกเป็นนักพนันต้องอาศัยแนวทางทั้งด้านจิตวิทยา พฤติกรรม และการสนับสนุนจากสังคม เช่น

  • ยอมรับปัญหาและตั้งใจจริง รับว่าตัวเองมีปัญหาและพร้อมเปลี่ยน
  • ลดการเข้าถึงการพนัน จำกัดเงินสด/บัตรเครดิต และหลีกเลี่ยงสถานที่หรือเว็บไซต์พนัน
  • ปรับความคิดและความเชื่อ เข้าใจว่าการพนันเป็นเรื่องโชค ไม่สามารถควบคุมผลลัพธ์ได้
  • หากิจกรรมทดแทน ทำกีฬา งานอดิเรก หรือกิจกรรมสังคมที่สนุกโดยไม่เสียเงิน
  • จัดการอารมณ์และความเครียด ใช้วิธีอื่นแทนการพนัน เช่น ออกกำลังกาย ทำสมาธิ หรือพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญ
  • ขอความช่วยเหลือ ใช้ CBT, MI หรือเข้ากลุ่มสนับสนุน เช่น Gamblers Anonymous
  • ตั้งเป้าหมายและวางแผนระยะยาว เริ่มจากเล็กๆ เช่น งดเล่นหนึ่งวัน แล้วขยายเป็นสัปดาห์ เดือน และปี พร้อมติดตามความคืบหน้าและให้รางวัลตัวเอง

เปรียบเทียบ การเดิมพันของนักพนัน vs นักเดิมพันทั่วไป

การเดิมพันเป็นกิจกรรมที่หลายคนทำเพื่อความสนุกหรือความตื่นเต้น แต่ไม่ใช่ทุกคนที่มีพฤติกรรมเหมือนกัน การเปรียบเทียบระหว่างนักเดิมพันทั่วไปกับนักพนันช่วยให้เข้าใจความเสี่ยงและสัญญาณเตือนของพฤติกรรมที่อาจลุกลามไปสู่ปัญหา

นักพนัน

  • นักพนันต่างจากนักเดิมพันทั่วไปตรงที่มักเล่นเพื่อหวังชนะและทำเงิน แม้ว่าจะเสี่ยงเสียมาก การควบคุมตัวเองทำได้ยาก
  • แม้รู้ว่ากำลังเสียเงินหรือเกิดผลเสียต่อชีวิตก็ยังหยุดเล่นได้ยาก นักพนันมักมีความเชื่อผิดๆ ว่าสามารถควบคุมผลลัพธ์ของเกมหรือต้องชนะเพื่อคืนเงินที่เสียไป
  • อารมณ์ผูกพันกับผลลัพธ์การเล่น เล่นเพื่อหนีปัญหาหรือแก้เครียด จึงมีความเสี่ยงสูงต่อปัญหาการเงิน ครอบครัว และสุขภาพจิต เมื่อพฤติกรรมลุกลามอาจพัฒนาไปสู่การเสพติดการพนัน

นักเดิมพันทั่วไป

  • นักเดิมพันทั่วไปมักเล่นพนันเพื่อความสนุก ความตื่นเต้น หรือเป็นกิจกรรมสังคม มีขอบเขตในการเล่น ทั้งเวลาและเงินที่ใช้
  • สามารถหยุดเล่นได้ตามแผน และไม่ปล่อยให้การพนันมีผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน นักเดิมพันทั่วไปเข้าใจว่าเกมมีโอกาสชนะหรือแพ้และผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับโชคหรือทักษะบางส่วน
  • เพลิดเพลินกับความสนุกและความตื่นเต้นโดยไม่เครียดมาก การพนันจึงเป็นกิจกรรมแบบชั่วคราว ไม่ทำให้เกิดผลเสียต่อการเงิน ครอบครัว หรือสุขภาพจิต

บทสรุป จิตวิทยา เลิกเป็นนักพนัน

จิตวิทยา เลิกเป็นนักพนัน ชี้ว่าการพนันไม่ใช่แค่เกมหรือเงิน แต่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ พฤติกรรม และความคิด การเข้าใจแรงดึงดูด สัญญาณเตือน และการจัดการตัวเอง พร้อมความตั้งใจ กิจกรรมทดแทน การสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญ และการควบคุมเงิน ช่วยให้เลิกพนันได้อย่างยั่งยืนและลดโอกาสกลับมาเล่นซ้ำ

การเป็นนักพนัน สามารถเลิกเป็นได้หรือไม่ ?

การเป็นนักพนันสามารถเลิกได้ แต่ต้องอาศัยความตั้งใจจริงและการปรับพฤติกรรมให้ถูกต้อง การขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญหรือกลุ่มสนับสนุนช่วยเพิ่มโอกาสสำเร็จได้มากขึ้น และการสร้างกิจกรรมทดแทน ควบคุมเงิน และจัดการอารมณ์ จะช่วยให้ลดความอยากเล่นและเลิกพนันอย่างยั่งยืน

เดิมพันอย่างไรไม่ให้กลายเป็นนักพนัน ?

การเดิมพันไม่ให้กลายเป็นนักพนันต้องเล่นอย่างมีขอบเขต รู้จักจำกัดเวลาและเงินที่ใช้ และไม่พยายามเอาคืนเมื่อเสีย การเข้าใจว่าผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับโชค ไม่ใช่ฝีมือ จะช่วยควบคุมความคิดและความอยากเล่นได้ และควรมีกิจกรรมทดแทนหรือสนุกแบบอื่นเพื่อไม่ให้พึ่งพาการพนันเป็นหลัก

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง