
ทำไม นักพนันถึงเชื่อว่าจะชนะ เหตุผลที่ทำให้เลือกเล่นต่อ
- Ye Jin
- 60 views

ทำไม นักพนันถึงเชื่อว่าจะชนะ แม้ว่าการพนันส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับดวงและความสุ่มก็ตาม ความเชื่อนี้เกิดจากหลายปัจจัย ทั้งความทรงจำเรื่องชนะในอดีต ความมั่นใจเกินจริงว่าตัวเองมีเทคนิคหรือโชคช่วย และแรงกระตุ้นจากบรรยากาศรอบตัวหรือโฆษณาชวนเชื่อ ทำให้ผู้เล่นหลายคนยังคงเล่นต่อแม้รู้ว่ามีความเสี่ยงสูง
- คำอธิบายเกี่ยวกับการพนัน
- สาเหตุที่ทำให้การพนันมีความสนุก
- สิ่งที่ทำให้คิดว่าจะชนะในการพนัน
การพนันคืออะไร ทำไมถึงเป็นที่นิยมในหมู่นักเดิมพัน
การพนันคือการเสี่ยงทายเพื่อหวังผลตอบแทน เช่น เงินหรือทรัพย์สิน โดยอาศัยดวงและจังหวะเป็นหลัก จึงให้ทั้งความตื่นเต้นและความหวังในการได้กำไร
ปัจจุบันรูปแบบการพนันได้ขยายสู่โลกออนไลน์ ทำให้ผู้เล่นเข้าถึงได้ง่าย สะดวก ไม่ต้องเปิดเผยตัวตน และมีเกมหลากหลายให้เลือก เช่น คาสิโน บอล หรือหวยออนไลน์ จึงไม่น่าแปลกที่การพนันยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในหมู่นักเดิมพันยุคใหม่
ที่มา: การพนันคืออะไร? มีโทษอย่างไร? (30 มิถุนายน 2023) [1]
ความสนุกในการพนัน เกิดขึ้นจากอะไร
หลายคนอาจสงสัยว่าการพนันมี ความสนุกจากการชนะ เกิดจากอะไร ทำไมถึงทำให้รู้สึกสนุก ทั้งที่รู้ว่ามีโอกาสเสียมากกว่าได้ ความจริงแล้ว ความสนุกในการพนัน ไม่ได้เกิดจากเงินรางวัลเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากหลายปัจจัยที่กระตุ้นสมอง และอารมณ์ของคนให้ตื่นตัว และอยากเล่นต่อไป
- การได้ลุ้นผลที่ไม่แน่นอน ความไม่รู้ว่าผลจะออกมาอย่างไร ทำให้สมองเกิดความตื่นเต้น คล้ายกับเวลารอลุ้นสิ่งสำคัญบางอย่าง
- สารเคมีในสมอง ทุกครั้งที่มีโอกาส “เกือบชนะ” หรือ “ได้รางวัล” สมองจะหลั่งโดปามีน ทำให้รู้สึกสุข สนุก และอยากลองอีก
- ความรู้สึกว่าควบคุมได้ ผู้เล่นมักคิดว่าตัวเองมีเทคนิคหรือโชคช่วย ทั้งที่ผลจริงขึ้นอยู่กับความสุ่ม แต่ความรู้สึกนี้ทำให้เกมดูน่าสนใจมากขึ้น
- บรรยากาศและสิ่งกระตุ้นรอบตัว แสง สี เสียง และเสียงเชียร์ในบ่อนหรือบนหน้าจอ ล้วนสร้างอารมณ์ร่วม ทำให้รู้สึกมีชีวิตชีวา
- ความท้าทายและการแข่งขัน การพนันบางรูปแบบให้ความรู้สึกเหมือนการวัดฝีมือกับคนอื่น ซึ่งกระตุ้นให้เกิดความฮึกเหิมและอยากชนะ
ประวัติความเป็นมาของการพนันในประเทศไทย
การพนันอยู่คู่กับสังคมไทยมาช้านาน แม้จะผิดกฎหมายแต่ก็ยังพบได้ทั่วไป หลักฐานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2230 สมัยสมเด็จพระนารายณ์ฯ ที่เอกอัครราชทูตฝรั่งเศส เดอ ลาลูแบร์ บันทึกไว้ว่า “ชาวสยามรักการพนันมาก” แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมนี้ฝังรากในวัฒนธรรมไทยมานาน
โดยเริ่มจากจีนและแพร่เข้าสู่ไทยในช่วงปลายกรุงศรีอยุธยา (พ.ศ. 2231–2275) เช่น การเล่นกำตัด ต่อมาในสมัยรัชกาลพระเจ้าบรมโกศมีการเก็บอากรบ่อนเบี้ย และดำเนินต่อมาจนถึงรัชกาลที่ 5 ที่ทรงเห็นโทษของการพนันจนสั่งเลิกบ่อนทั่วประเทศ
กระทั่งรัชกาลที่ 6 มีประกาศปิดบ่อนทั่วราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2460 ทำให้การพนันกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่ยังคงเป็นประเด็นถกเถียงเรื่องการเปิดอย่างถูกกฎหมายมาจนถึงปัจจุบัน
ที่มา: ย้อนรอยเรื่องราว ‘การพนัน’ ในสังคมไทย (25 มกราคม 2021) [2]
ปัจจัยที่ทำให้นักเดิมพันคิดว่าจะชนะในการเดิมพัน

หลายคนที่เล่นพนันมักมีความเชื่ออยู่ลึกๆ ว่าครั้งต่อไปต้องชนะแน่ ทั้งที่ความจริงผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับดวงและความสุ่มมากกว่าฝีมือ ความคิดแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความโลภอย่างเดียว แต่มีหลายปัจจัยที่ทำให้ผู้เล่นรู้สึกมั่นใจเกินจริงและเชื่อว่าตัวเองจะเอาชนะได้
- เคยชนะมาก่อน ถ้าเคยได้กำไรจากการพนันมาก่อน คนมักจะจำความรู้สึกนั้นไว้ และคิดว่าตัวเองมีฝีมือ ทั้งที่อาจแค่ดวงดีในตอนนั้น
- คิดว่าควบคุมเกมได้ หลายคนเชื่อว่าตัวเองมีเทคนิคเฉพาะ เช่น กดจังหวะดี หรือวางเงินแบบมีสูตร ทั้งที่จริงระบบส่วนใหญ่เป็นการสุ่มหมด
- เชื่อเรื่องดวง บางคนคิดว่าวันนี้ดวงดีแน่ หรือรอบนี้ต้องได้ ทำให้กล้าเสี่ยงมากขึ้น ทั้งที่ไม่มีหลักฐานว่าดวงจะช่วยได้จริง
- บรรยากาศรอบข้าง เสียงเชียร์ คนรอบตัว หรือเห็นคนอื่นเล่นได้ ทำให้รู้สึกอยากลองและคิดว่าตัวเองก็มีสิทธิ์ชนะเหมือนกัน
- อยากเอาคืนเมื่อเล่นเสีย เวลาขาดทุน หลายคนจะคิดว่าถ้าเล่นอีกนิดจะได้คืน จึงลงเงินเพิ่ม ทั้งที่จริงยิ่งเสี่ยงเสียมากกว่าเดิม
สิ่งที่ทำให้นักเดิมพันหลายคนเสพติดการพนัน
หลายคนติดการพนันจนเลิกยาก เพราะสมอง และจิตใจหมกมุ่นกับการเล่นเหมือนการเสพติดสารเคมี องค์การอนามัยโลกจัดให้พฤติกรรมนี้เป็นความผิดปกติทางจิต ผู้เล่นมักรู้ว่าการพนันส่งผลเสียต่อเงิน สุขภาพ และสังคม แต่ควบคุมตัวเองไม่ได้
งานวิจัยพบว่าผู้ติดพนันมักมีปัญหาอารมณ์ เช่น ซึมเศร้าหรือแปรปรวนรุนแรง บางรายถึงขั้นคิดฆ่าตัวตายหลังเสียเงิน และมักมีความคิดบิดเบือนเชื่อว่าตัวเองเอาชนะได้ ทั้งที่โอกาสแพ้มักสูงกว่า ซึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้ติดพนันอย่างเห็นได้ชัด คือ
- ปัญหาการควบคุมตัวเอง คนที่ควบคุมความอยากหรือการใช้เวลาและเงินไม่ค่อยได้ มีแนวโน้มติดพนันสูงกว่า
- อิทธิพลจากสังคมและโฆษณา การโฆษณาชวนให้เล่นง่าย ลงทุนต่ำแต่ได้เงินเร็ว เช่น บาคาร่า ทำให้หลายคนหลงเชื่อและเล่นต่อเนื่อง ในสหราชอาณาจักร เด็กอายุ 11 ปีขึ้นไปเกือบ 90% เคยเห็นเนื้อหาการพนัน และ 25% อยากลองหลังเห็นคนดังโปรโมต
ที่มา: Pathological Gambling หรือ การเสพติดพนัน (สืบค้นเมื่อ 26 ตุลาคม 2025) [3]
เปรียบเทียบ ความรู้สึกในการ ชนะเกมพนัน vs แพ้เกมพนัน
หลายคนที่เล่นพนันมักสังเกตว่าความรู้สึกเวลา ชนะ กับ แพ้ แตกต่างกันอย่างชัดเจน ความต่างนี้เองเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้หลายคนยังเล่นต่อ แม้ว่าจะมีความเสี่ยงสูง
ชนะเกมพนัน
- ผู้เล่นมักรู้สึกตื่นเต้น และสนุกทันที เพราะสมองหลั่งสารโดปามีน ซึ่งสร้างความสุข และความพึงพอใจ
- การชนะยังทำให้เกิดความมั่นใจ รู้สึกโชคดีหรือมีทักษะในการเล่น ซึ่งบางครั้งทำให้คิดว่าตัวเองควบคุมเกมได้
- ความรู้สึกเหล่านี้ถือเป็นแรงจูงใจสำคัญที่ดึงให้ผู้เล่นอยากลงเดิมพันต่อ เพื่อสัมผัสความสุขซ้ำอีก
แพ้เกมพนัน
- ความรู้สึกจะเปลี่ยนเป็นหงุดหงิด เสียใจ หรือโกรธตัวเอง
- การสูญเสียเงินจำนวนมากอาจทำให้เกิดความเครียดและวิตกกังวล
- ผู้เล่นหลายคนมีความคิดอยากเอาคืน ด้วยการลงเดิมพันเพิ่มโดยไม่รอบคอบ ซึ่งมักยิ่งทำให้เสียมากขึ้น
- การแพ้ไม่เพียงแต่จะทำให้เสียเงิน แต่ยังสร้างวงจรอารมณ์ที่ดึงให้ผู้เล่นกลับไปเล่นต่อ
สรุปแล้ว ทำไม นักพนันถึงเชื่อว่าจะชนะ
ทำไม นักพนันถึงเชื่อว่าจะชนะ เกิดจากความทรงจำที่เคยชนะในอดีต ความมั่นใจเกินจริงว่าตัวเองมีเทคนิคหรือโชคช่วย และแรงกระตุ้นจากบรรยากาศหรือโฆษณา ความตื่นเต้นจากการลุ้นผล สิ่งเหล่านี้เองทำให้หลายคนเลือกที่จะเล่นต่อ แม้รู้มีความเสี่ยง ซึ่งก็ทำให้บางรายเกิดการติดพนันจนเลิกยาก
อะไรทำให้นักเดิมพันมั่นใจว่าเล่นต่อแล้วจะชนะ ?
นักเดิมพันมักจะมั่นใจว่าจะชนะต่อเพราะจำความรู้สึกชนะในอดีต เชื่อว่าตัวเองมีเทคนิคหรือควบคุมเกมได้ และถูกกระตุ้นจากบรรยากาศรอบตัวหรือโฆษณาชวนเชื่อ แม้ความจริงโอกาสแพ้มักสูงกว่าการชนะ ทำให้หลายคนเล่นต่อโดยไม่ระวัง
อะไรทำให้นักเดิมพันเลือกที่จะเล่นต่อ แทนที่จะหยุด ?
นักเดิมพันเลือกเล่นต่อแทนที่จะหยุด เพราะความตื่นเต้นจากการลุ้นรางวัล ความหวังว่าจะชนะคืนหรือได้กำไรเพิ่ม รวมถึงความมั่นใจเกินจริงว่าตัวเองมีเทคนิคหรือโชคช่วย แม้จะรู้ว่ามีความเสี่ยงสูง ก็ทำให้หลายคนไม่สามารถหยุดเล่นได้ทันที


