เข้าใจ โดพามีนกับวงจรพนัน สารแห่งความสุขกับการเสี่ยงโชค

เข้าใจ โดพามีนกับวงจรพนัน

เข้าใจ โดพามีนกับวงจรพนัน การพนันไม่ใช่แค่เรื่องของโชคหรือเงิน แต่เกี่ยวข้องกับการทำงานของสมองและสารเคมีอย่างโดพามีน ที่ทำให้รู้สึกสุขและตื่นเต้นเมื่อชนะ เมื่อสมองจดจำความรู้สึกนี้ได้ ก็อยากกลับไปเล่นซ้ำ วงจรความอยากจึงหมุนต่อเนื่องจนยากจะหยุดได้

  • อธิบายความหมาย และรูปแบบของการพนัน
  • สมองและความคิดของคนเล่นพนัน
  • อธิบายเกี่ยวกับโดพามีนและการพนัน

ความหมาย และรูปแบบของการพนัน

การพนัน คือกิจกรรมที่ผู้เล่นเสี่ยงโชคเพื่อแลกกับเงินหรือของมีค่า โดยต้องทายผลหรือคาดเดาเหตุการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้น ซึ่งรูปแบบของการพนันมีหลายประเภท เช่น การพนันที่อิงการแข่งขันอย่างเกมไพ่ ลูกเต๋า หรือกีฬา

การพนันที่เน้นการทำนายผลล่วงหน้า เช่น การแทงบอลและแทงม้า รวมถึงการพนันที่ไม่เกี่ยวกับการแข่งขัน แต่ขึ้นอยู่กับความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ อย่างเช่นการเล่นหวย

ที่มา: การพนัน (30 ตุลาคม 2025) [1]

ประวัติของการพนันที่มีในประเทศไทย

การพนันมีจุดเริ่มต้นจากประเทศจีนราว 100 ปีก่อนคริสต์ศักราช ก่อนจะแพร่ไปยังอินเดีย บาบิโลน และประเทศตะวันตก ส่วนในประเทศไทยเชื่อว่าเริ่มเข้ามาตั้งแต่สมัย กรุงสุโขทัย แต่มีหลักฐานชัดเจนในช่วง กรุงศรีอยุธยาตอนปลาย (พ.ศ. 2231–2275) กับการเล่น “กำตัด” ซึ่งคล้ายกับกำถั่วของจีน

และต่อมาในสมัย รัชกาลพระเจ้าบรมโกศ การพนันได้รับความนิยมสูงจนมีการเก็บอากรบ่อนเบี้ยอย่างเป็นทางการ ต่อเนื่องมาถึงสมัย กรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น กระทั่งในรัชกาลที่ 5 (พ.ศ. 2411–2453) พระองค์ทรงเห็นโทษของการพนัน และเริ่มจำกัดจำนวนบ่อนทั่วประเทศ

จนถึงสมัย รัชกาลที่ 6 ได้มีประกาศปิดบ่อนทั่วราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2460 ส่งผลให้การพนัน กลายเป็นสิ่งผิดกฎหมายของไทยตั้งแต่นั้นมา แม้ปัจจุบันยังคงมีการลักลอบเล่นอยู่ และมีการถกเถียงเรื่องการเปิดบ่อนถูกกฎหมายอย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบัน

ที่มา: ย้อนรอยเรื่องราว ‘การพนัน’ ในสังคมไทย (25 มกราคม 2021) [2]

ปัญหาการเสพติดการพนันในปัจจุบัน

ปัญหาการเสพติดการพนันในปัจจุบันใกล้ตัวมากขึ้น เพราะเข้าถึงง่ายผ่านมือถือ หลายคนเริ่มจากเล่นสนุก ๆ แต่กลับถลำลึกจนหยุดไม่ได้ ส่งผลให้เสียเงินจนเป็นหนี้ เครียด ความสัมพันธ์ในครอบครัวพัง และกระทบต่อสุขภาพจิตอย่างรุนแรง

ปัจจุบันพบว่ามีคนไทยกว่า 7.45 ล้านคน ที่ได้รับผลกระทบจากการพนัน และกว่า 3 ล้านคน ในกลุ่มเด็กและเยาวชนเริ่มเข้าสู่วงจรการพนันออนไลน์ ปัญหานี้เกิดจากสมองที่ชินกับความตื่นเต้น และความหวังว่าจะได้รางวัล ทำให้หยุดเล่นไม่ได้แม้รู้ว่าเสียมากกว่าได้

ในขณะที่โฆษณาออนไลน์ที่เชิญชวนว่าเล่นแล้วรวย ยิ่งกระตุ้นให้คนหลงเชื่อ ทางแก้จึงไม่ใช่แค่การห้าม แต่ต้องให้ความรู้เรื่องความเสี่ยง และมีระบบช่วยเหลือผู้ที่เริ่มติด เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหานี้ลุกลามในสังคม

เข้าใจสมอง และความคิดของคนเล่นพนัน

เข้าใจ โดพามีนกับวงจรพนัน

การติดการพนันเกิดจากสมองหลั่งโดพามีน ที่ทำให้รู้สึกดีและตื่นเต้นเมื่อชนะ สมองจดจำความสุขนั้นและอยากกลับไปสัมผัสอีก แม้จะเสียมากกว่าได้ เมื่อเล่นบ่อย สมองจะชิน ต้องเดิมพันมากขึ้นถึงจะรู้สึกเหมือนเดิม จนกลายเป็นพฤติกรรมเสพติดที่หยุดได้ยาก

งานวิจัยยังพบว่า คนติดพนันมักมีการทำงานของสมองส่วนหน้า ที่ควบคุมเหตุผลและการยับยั้งชั่งใจลดลง ทำให้ตัดสินใจผิดพลาดง่าย ขณะเดียวกันสมองส่วนที่เกี่ยวกับความสุข กลับทำงานน้อย จึงต้องพึ่งการพนันเพื่อเติมเต็มความรู้สึกดีชั่วคราว

สุดท้ายการพนันจึงไม่ใช่แค่เรื่องของเงิน แต่เป็นการต่อสู้กับวงจรความสุข และความอยากในสมองที่ยากจะหลุดออกมาได้เอง

ที่มา: How Gambling Affects Your Brain (31 มกราคม 2022) [3]

ความเกี่ยวข้องของโดพามีน และการพนัน

โดพามีน คือสารเคมีในสมองที่ทำให้รู้สึกสุขและตื่นเต้น ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อพฤติกรรมการเล่นพนัน ทุกครั้งที่ผู้เล่นชนะหรือเกือบชนะ สมองจะหลั่งโดพามีนออกมา ทำให้รู้สึกดี และอยากเล่นต่อ แม้จะรู้ว่าเสี่ยงหรือเสียมากกว่าได้

เมื่อเล่นบ่อย สมองจะเริ่มชินกับระดับโดพามีนเดิม ต้องเพิ่มความเสี่ยง เพื่อให้รู้สึกตื่นเต้นเท่าเดิม จนกลายเป็นวงจรซ้ำที่ยากจะควบคุม นี่คือเหตุผลว่าทำไมการพนันถึงทำให้คนติดได้ง่าย เพราะสมองจดจำว่าการเล่นคือแหล่งของ “ความสุขชั่วขณะ” ที่อยากกลับไปสัมผัสซ้ำอีกครั้ง

เปรียบเทียบ สมองของคนติดพนัน vs สมองของผู้เล่นทั่วไป

หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมบางคนเล่นพนันแค่สนุกๆ แล้วหยุดได้ แต่บางคนกลับเล่นจนควบคุมไม่ได้ คำตอบอยู่ที่ “สมอง” ซึ่งควบคุมอารมณ์ การตัดสินใจ และความสุข การพนันไปกระตุ้นสมองส่วนที่เกี่ยวกับความยับยั้งและระบบรางวัล ทำให้สมองของ “ผู้เล่นทั่วไป” กับ “คนติดพนัน” ทำงานต่างกันอย่างชัดเจน

สมองของคนติดพนัน

  • คนที่ติดพนันจะมีสมองส่วนหน้าทำงานลดลง ทำให้ขาดการยับยั้งชั่งใจ และตัดสินใจด้วยอารมณ์มากกว่าเหตุผล ระบบรางวัลในสมองทำงานผิดปกติ
  • ตอนแรกจะหลั่งโดพามีนมากเมื่อชนะ แต่เมื่อเล่นต่อเนื่อง สมองจะเริ่มชิน ต้องเพิ่มเงินเดิมพันเพื่อให้ได้ความรู้สึกดีเท่าเดิม
  • นี่คือเหตุผลว่า ทำไม หยุดเล่นพนันถึงยาก เพราะสมองจะจดจำแต่ “ความสุขชั่วคราว” จากการพนัน มากกว่าผลเสียที่ตามมา

สมองของผู้เล่นทั่วไป

  • ผู้เล่นทั่วไปจะมีสมองส่วนหน้า ทำงานได้ดี ช่วยให้คิดไตร่ตรองและรู้จักควบคุมตัวเอง สามารถประเมินความเสี่ยง และรู้ว่าเมื่อไรควรหยุด
  • ระบบรางวัลในสมอง จะหลั่งโดพามีนในระดับพอดี ทำให้รู้สึกตื่นเต้นจากการเล่น แต่ไม่ถึงขั้นต้องกลับมาเล่นซ้ำเพื่อไล่หาความสุขเดิม

สรุปแล้ว สมองของคนติดพนัน จะถูกระบบรางวัลควบคุมจนขาดการยับยั้ง และต้องการความตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนผู้เล่นทั่วไปยังคงมีสมดุลในการคิด และควบคุมตัวเองได้ ความต่างนี้ทำให้คนติดพนันหลุดจากวงจรได้ยาก ขณะที่ผู้เล่นทั่วไป สามารถหยุดได้เมื่อถึงจุดที่พอใจ

บทสรุป เข้าใจ โดพามีนกับวงจรพนัน

เข้าใจ โดพามีนกับวงจรพนัน การพนันไม่ได้ขึ้นอยู่กับโชคเท่านั้น แต่เกี่ยวข้องกับการทำงานของสมองและสารโดพามีนที่สร้างความสุขชั่วขณะ จนกลายเป็นแรงผลักให้คนอยากเล่นซ้ำโดยไม่รู้ตัว เมื่อสมองคุ้นกับความตื่นเต้นนี้ การหยุดจึงไม่ง่าย เพราะต้องต่อสู้กับวงจรความสุข ที่สมองสร้างขึ้นเองทุกครั้งที่เดิมพัน

ทำไมคนติดพนัน ถึงเลิกเล่นได้ยาก ?

คนติดพนันเลิกเล่นได้ยาก เพราะสมองจดจำความรู้สึกดีตอนชนะและหลั่งโดพามีนทุกครั้งที่ได้เดิมพัน ทำให้ร่างกายอยากกลับไปสัมผัสความสุขแบบนั้นอีก แม้จะรู้ว่ามีผลเสียก็ตาม เมื่อสมองชินกับการกระตุ้นแบบนี้ การหยุดเล่นจึงไม่ต่างจากการถอนยา ต้องใช้เวลาและความพยายามสูง ถึงจะหลุดจากวงจรนี้ได้

ทำไม การเล่นพนัน ถึงทำให้มีโดพามีนได้ ?

การพนันทำให้สมองหลั่งโดพามีน เพราะทุกครั้งที่ลุ้นหรือชนะ สมองจะรับรู้ว่าเรา “ได้รางวัล” จึงปล่อยสารแห่งความสุขออกมา ทำให้รู้สึกดี ตื่นเต้น และอยากเล่นต่อ ความรู้สึกแบบนี้เองที่ทำให้หลายคนติดใจ จนอยากกลับไปเสี่ยงซ้ำ เพื่อให้ได้ความสุขแบบเดิมอีกครั้ง

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง